#เหรียญรุ่น2 #รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์พัดยศ
#หลวงพ่อพาน #วัดโป่งกะสัง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2526 จำนวนจัดสร้าง 5000 เหรียญ สร้างขึ้นในวาระหลวงพ่อพานฉลองสมณศักดิ์ เป็นพระครูประวิตรศีลาจาร มีเนื้อทองแดงรมดำ เนื้อเดียว บล็อกเดียว

เหรียญรุ่นนี้ลวงพ่อได้ลงอักขระเลขยันต์ต่างๆ
ที่มีพุทธคุณโดดเด่นทางเลื่อนยศตำแหน่ง เมตตาโชคลาภ เพิ่มอำนาจวาสนาบารมี ไว้ด้านหลังเหรียญอย่างพิเศษกว่ารุ่นอื่นๆ สมกับเป็นเหรียญที่ออกในวาระฉลองสมณศักดิ์ของหลวงพ่อจริงๆ โดยท่านได้ลงคาถาไว้ทั้งหมดดังนี้ครับ

---------------------------“ตัวเฑาะว์” ตรงกลางยันต์ ------------------------

หลวงพ่อท่านลงไว้ด้วยตัว “เฑาะว์” ประจำตัวของท่าน โดยมี ฤ ฤา ประกอบซ้ายขวา ซึ่ง “เฑาะว์” นี้มีพุทธคุณทางป้องกันภัยทั้งปวง ส่วน ฤ ฤา เป็น “หัวใจฤาษี” คือการอัญเชิญกำลังครูบาอาจารย์ในวิชาทั้งหลายมาประสิทธิดูแลรักษา และยังเป็นตัวพ้องเสียงกับ “ฤาชา” หรือ “ลือชา” ซึ่งส่งผลคล้ายการลงนะลือชา คือก่อให้เกิดพุทธคุณทางเมตตามหานิยม มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องชื่อลือชา ซึ่งลักษณะการลงตัว “เฑาะว์” ประกอบไปกับ “ฤ ฤา” นี้ หลวงพ่อนิยมลงบ่อยมากในผ้ายันต์และตะกรุดต่างๆของท่านครับ เพราะถือว่ามีพุทธคุณครอบครบหมด ทั้งป้องกันภัย และเมตตามหานิยม

---------------------------- "คาถารอบตัวเฑาะว์" -----------------------------

หลวงพ่อลงคาถาไว้ว่า

“อิสวาสุ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ โมนาสิสัง จะภะกะสะ นะมะอะอุ นะชาลีติ”

(สามารถอ่านตามที่ผมเขียนแปลเป็นภาษาไทยไว้ให้ในรูปเลยครับ) โดยแต่ละบทมีความหมายดังนี้ครับ

- "อิสวาสุ” หมายถึง “หัวใจพระรัตนตรัย” คือ “อิ” ย่อมาจาก อิติปิโสภควา... “สวา” ย่อมาจาก สวากขาโต ภควตาธัมโม... “สุ” ย่อมาจาก “สุปฏิปันโน สาวกสังโฆ...

- “นะโมพุทธายะ” หมายถึง “พระพุทธเจ้า 5 พระองค์” ในภัทรกัปนี้ ได้แก่ พระกกุสันโธ (นะ) พระโกนาคม (โม) พระกัสสปะ (พุท) พระโคดม (ธา - พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) และพระศรีอาริยเมตไตรย์ (ยะ)

- “นะมะพะทะ” หมายถึง “ธาตุ 4” คือ นะ (น้ำ) มะ (ดิน) พะ (ไฟ) ทะ (ลม)

- “โมนาสิสัง” หมายถึง “คาถาพญาเต่าเรือน” แต่หลวงพ่อท่านเดินคาถาเฉพาะตัวแบบขมวดปมย้อนหลัง (ปกติคาถาพญาเต่าเรือนจะใช้ว่า “นาสังสิโม”)

- “จะภะกะสะ” หมายถึง “ธาตุพระกรณีย์” พระคาถาที่โบราณจารย์ใช้ในการปลุกเสกเลขยันต์ต่างๆเพื่อเสริมธาตุทางธรรม ให้ยันต์และคาถาต่างๆมีกำลังมั่นคงไม่เสื่อมคลาย เพราะเป็นพระคาถาที่ถอดมาจากคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ทรงสอนถึงทางแห่งความไม่เสื่อมของชีวิตว่าจะต้องประกอบด้วยธรรม ๔ ประการคือ
“จะ” (หนุนน้ำ) ย่อมาจาก จชทุชฺชนสงฺสคฺคํ แปลว่า จงละเว้นการคบคนชั่วเสีย
“ภะ” (หนุนดิน) ย่อมาจาก ภชสาธุสมาคตํ แปลว่า หมั่นคบหาสมาคมด้วยบัณฑิต
“กะ” (หนุนไฟ) ย่อมาจาก กรปุญฺญมโหรตฺตํ แปลว่า ให้สร้างบุญ(ให้ทาน) ทั้งกลางวันและกลางคืน
“สะ” (หนุนลม) ย่อมาจาก สรนิจฺจมนิจฺจํ แปลว่า ให้ระลึกถึงความไม่เที่ยงของสังขารเป็นนิจ

- “นะมะอะอุ” หมายถึง “หัวใจแก้ว 4 ประการ” ได้แก่ “นะ” คือแก้วมณีโชติ (ธาตุน้ำ) “มะ” คือแก้วไพฑูรย์ (ธาตุดิน) “อะ” คือแก้ววิเชียร (ธาตุไฟ) “อุ” คือแก้วปัทมราช (ธาตุลม)

- “นะชาลีติ” หมายถึง หัวใจพระสิวลี ซึ่งมีพุทธคุณโดดเด่นทางเมตตาโชคลาภสูงยิ่ง

ปกติแล้วในการปลุกเสกที่ครบองค์ประกอบ จะต้องตั้งธาตุ เดินธาตุ หนุนธาตุ ให้สมบูรณ์พร้อม เพื่อให้เกิดพุทธคุณที่สมบูรณ์พร้อม และใช้ได้ผลเต็มที่สูงสุด ซึ่งปกติจะเดินคาถาธาตุดังนี้ “นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ นะมะอะอุ” คือตั้งด้วยธาตุพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ แล้วหนุนด้วยธาตุ 4 กันเสื่อมด้วยธาตุกรณีย์ แล้วประสิทธิให้สำเร็จดังแก้วสารพัดนึกด้วยแก้ว 4 ดวง

แต่หลวงพ่อพานท่านสอดไส้ตรงกลางเพิ่มเติมไว้ด้วย “โมนาสิสัง” ซึ่งเป็นหัวใจพญาเต่าเรือน ที่มีอานุภาพโดดเด่นทาง กลับร้ายให้กลายเป็นดี ลบเลือนเกลื่อนสิ่งไม่ดีให้หายไป และมีโชคลาภเมตตามหานิยมสูง เมื่อนำมาสอดไส้ไว้ตรงกลางการเดินธาตุ 4 จึงเท่ากับเป็นการประสิทธิพลังงานธาตุลงไปในหัวใจพญาเต่าเรือน ให้มีพุทธคุณเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นไปอีก แถมธาตุที่นำมาหนุนนั้น ยังนำหน้าด้วยตัว “นะ” ทั้ง 4 หัวใจธาตุ ซึ่ง “นะ” คือ ธาตุน้ำ มีพุทธคุณโดดเด่นทางเมตตาโชคลาภชุ่มเย็นอยู่ในตัวแล้ว เมื่อเอาเต่ามาเจอน้ำ ก็เท่ากับเสริมพลังงานของพญาเต่าเรือนให้มีพุทธคุณสูงส่งทางเมตตาโชคลาภสูงขึ้นไปอีก และยิ่งเมื่อปิดคาถาด้วย "นะชาลีติ" คือหัวใจพระสิวลี จึงยิ่งไม่ตองพูดถึงว่าจะมีพุทธคุรทางเมตตาโชคลาภที่สูงส่งสุดยดเพียงใด

---------------------คาถารอบกลีบมงกุฏพระพุทธเจ้า------------------------

– ในวงรอบนอกของยันต์ ที่เห็นเหมือนเป็นกลีบบัวนั้น หลวงพ่อพานท่านได้ลงประดับไว้ด้วยคาถา “มงกุฎพระพุทธเจ้า” คือ “อิติปิโสวิเสเสอิ อิเสเสพุทธะนาเมอิ อิเมนาพุทธะตังโสอิ อิโสตังพุทธะปิติอิ” แล้วจบด้วยหัวใจพระรัตนตรัยคือ “อิสวาสุ”

คาถามงกุฏพระพุทธเจ้านี้ มีพุทธคุณสูงดังแก้วสารพัดนึก สามารถอธิษฐานใช้ได้ทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นคงกระพัน ป้องกันภัย ไล่ภูตผีปีศาจคุณสยมนต์ดำ หรือเมตตามหานิยม และยังมีพุทธคุณโดดเด่นทางเพิ่มอำนาจวาสนาบารมี เปรียบดังผู้ที่ได้สวมมงกุฏแห่งพระพุทธเจ้าอีกด้วย ซึ่งถือว่าเหมาะกับการใช้ในเหรียญงานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นอย่างยิ่ง

การลงคาถามงกุฏพระพุทธเจ้าในเหรียญนี้ หลวงพ่อมีกลบทในการลงที่น่าสนใจมากคือ กลีบบัวในยันต์มีทั้งหมด 16 กลีบ เมื่อรวมกับกลีบนอกอีก 16 ก็จะเท่ากับ 32 ซึ่งเลข 16 นี้ ยังแทนกำลังของ "พระเจ้า 16 พระองค์" และ "โสฬสมหามงคล" อีกด้วย ซึ่งถือเป็นยันต์ที่มีกำลังบารมีสูงยิ่ง ส่วน 32 ก็หมายถึง "อาการ 32" ของมนุษย์ทั้งหลาย นั่นหมายความว่า ท่านต้องการให้กำลังแห่งพุทธคุณและบารมีแห่งเทพพรหมทั้งปวง มาประสิทธิคุ้มครองลูกศิษย์อย่างพร้อมมูลทั่วอาการ 32 นั่นเอง

โดยหลวงพ่อมีวิธีการลงที่ไม่เหมือนใครคือ คาถามงกุฏพระพุทธเจ้านั้น ปกติจะมีอักขระ 32 ตัวพอดี แต่หลวงพ่อใช้การลงตัว “อิ” 1 ครั้ง ใช้แทน 2 ตัวคือ

อิติปิโสวิเสเส “อิ” เสเสพุทธะนาเม “อิ” เมนาพุทธะตังโส “อิ” โสตังพุทธะปิติอิ

ซึ่งทำให้อักขระลดลงเหลือ 29 ตัว และท่านจึงนำ 3 ตัวที่เหลือ มาลงปิดด้วยหัวใจพระรัตนตรัยคือ “อิสวาสุ” (อ่านตามภาพที่ผมได้เขียนลำดับเลขในการอ่านยันต์ไว้ได้เลยครับ) เรียกได้ว่าเป็นยันต์ที่เปิดและปิดด้วยพระรัตนตรัยซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์สูงสุดกว่าสิ่งใดทั้งปวง

หลวงพ่อพานท่านคงตั้งใจจะปลุกเสกให้เหรียญรุ่นนี้ ให้สมกับเป็นเหรียญที่ออกในงานเลื่อนสมณศักดิ์อย่างแท้จริง คือเป็นเหรียญที่มีพุทธคุณสูงส่งในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านเมตตาโชคลาภ เพิ่มวาสนาบารมี เลื่อนตำแหน่ง นับว่าเป็นเหรียญอีกรุ่นหนึ่งของท่านที่น่าเก็บไว้บูชาเป็นอย่างยิ่งครับ